ครูกุ้งและครูเชาว์

วันนี้คิดอยากเขียนบล็อกขึ้นมาหลังจากที่ไม่ได้เขียนนาน ที่ไม่ได้เขียนนานเพราะว่าขี้เกียจและมีโปรเจคมากมายที่กำลังทำอยู่ กำลังทำเว็บขึ้นมาอีกหนึ่งเว็บ เดี๋ยวเป็นรูปร่างหน้าตาขึ้นมาก่อน เดี๋ยวเอามาให้ดู วันนี้จะเล่าถึงเรื่องราวเมื่อครั้งไปเข้าค่ายธรรมที่วัดดอน วัดนี้มีเรื่องเล่ามากมายว่าเป็นวัดที่มีพวกภูตผีปิศาจดุร้าย แต่ผมไม่เคยเคยเจอสักทีผีเนียะ อยากเจ๊ออยากเจอ ก่อนจะเปิดโรงเรียนประมาณอาทิตย์หนึ่งโรงเรียนของผมจะให้คุณครูและนักเรียนทุกระดับ ได้ไปเข้าค่ายธรรมก่อนที่จะเปิดเทอม ครั้งนี้ก็เหมือนเดิม ดำรงตนเป็นครู ม.5 ผู้ต่ำต้อยด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ ต้องมานั่งสับผงก อดหลับอดนอน เพื่อมาดูผู้ซึ่งเรียกตัวเองว่านักเรียน เข้าค่ายที่วัดดอน จริงๆวัดนี้มีชื่อที่เพราะๆอยู่นะ ถ้าจำไม่ผิดชื่อว่า วัดบรมสถล มั้งอันนี้ไม่แน่ใจ ผมก็ต้องมานอนเฝ้านักเรียน ทั้งๆที่ ที่พักผม อยู่ห้างจากวัดไม่ถึง 2 ลี้ แต่ก็จำเป็นต้องนอนวัด นอนคือแรกก็หวั่นๆเหมือนกันเพราะวัดนี้ มีเรื่องเล่าเรื่องผีเพียบ เคยฟังครูเก่าๆท่านหนึ่ง ซึ่งท่านเสียไปแล้ว เล่าว่าสมัยก่อน พอเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ซอยวัดดอนหรือชื่อเป็นทางการคือซอยเจริญกรุง 57 นี้ไม่มีใครกล้าสัญจรเดินทางเลย เพราะกลัวผี มีคนเคยเห็นหลายครั้งประมาณว่ามีคนใส่เสื้อเก่าๆมาเดินตามซอยนี้ พอเดินเข้าไปถามนึกว่าเป็นขอทาน ก็ไม่ตอบหันมาดูอีกทีหายไปแล้ว บ้างก็เล่าว่า รถเมล์วิ่งผ่านพอจะจอดรับคน พอวิ่งไปใกล้ คนหายเฉยเลย ผีมันคงว่างมั้ง มาเรียกรถเมล์แล้วไม่ยอมขึ้น คืนแรกผมก็นอนไม่ค่อยหลับเหมือนกันเพราะกลัวนี้แหละ แต่ก็ไม่มีอะไร ผ่านคืนแรกแบบสบายๆ ไม่เจอแม้แมลงสาบหรือภูตผี ใดๆทั้งสิ้น อาจจะเป็นเพราะว่าผีไม่กล้าหลอกผมก็เป็นได้ เพราะผมเท้าหนัก มาหลอกไม่ดูตาม้าตาแมว บอกเลยผมเตะคอหักแน่ ผมไม่แน่ใจว่าเขาให้เข้าค่ายกี่วัน น่าจะสองวันมั้งถ้าจำไม่ผิด คืนวันไหนก็ไม่รู้ เขาเชิญวิทยากรข้างนอกมาให้ความรู้หรือมาพูดให้กำลังใจแก่นักเรียนและครู วิทยากรท่านนั้นคือ ครูเชาว์ ผมเรียกครูเชาว์ว่า ครูเชาว์ผู้ยิ่งใหญ่ เพราะท่านยิ่งใหญ่ คำว่ายิ่งใหญ่ของผมคือ ท่านเป็นครูผู้ให้ โดยการให้ของท่านไม่ได้หวังผลตอบแทนเลย ท่านเป็นครูนอกระบบ ไม่มีเงินเดือน ซึ่งโครงการที่ครูเชาว์ทำนั้นเป็นโครงการที่ช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาส ทั้งสิ้น ผมชื่นชมในงานของท่านมาก ทุกงานที่ทำทุกโครงการที่ทำก็ทำเพื่อคนอื่น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเลย เป็นตัวอย่างของครูผู้เสียสละและน่ายกย่อง และเป็นบุคคลที่หายาก คนแบบนี้มีน้อยหรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้ในสังคมที่ต่างคนต่างตะเกียจตะกายหาแต่ความรวยนี้ พอเขาบรรยายเสร็จ โรงเรียนก็จะมอบของช่วยเหลือต่างๆ ก็จะมีพวกขนม นม และเครื่องเขียนด้วยให้กับครูเชาว์ เพื่อที่จะให้ครูเชาว์ได้นำสิ่งของเหล่านี้ไปแจกจ่ายต่อให้กับเด็กๆในชุมชนต่อไป แน่นอนครับผมผู้ซึ่งมีความชื่นชอบแนวคิดการทำงานของครูเชาว์ เป็นตัวแทนไปมอบของให้ครูเชาว์เองเลย ผู้บริหาร ไปไหนก็ไม่รู้ ไปไดร์กอล์ฟ เข้าร้านเสริมสวยอยู่มั้ง ผมก็ไม่รู้ ไม่มีใครอยู่ผมก็แต่งตั้งตัวเองเป็นผู้บริหารเสียเลย ใส่กางเกงกีฬาเสื้อบอลบาร์เซโลน่า นี้แหละเครื่องแบบของผู้บริหารที่ผู้บริหารตัวจริงไม่กล้าใส่ ใส่แบบนี้เลย ไปมองของให้ครูเชาว์ ครูเชาว์กับครูชุ่ง ก็ได้เจอกันและรู้จักกันตั้งแต่นั้นมาครับ

เห็นไหมครับ ครูชุ่งกับครูเชาวน์หน้าตาคล้ายๆกันเลย ครูเชาว์เป็นบุคคลที่หายได้ยากยิ่ง เป็นบุคคลที่นานๆที่จะเกิดขึ้นบนโลกนี้สักครั้งหนึ่ง การให้โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนเลย การทำงานเพื่อให้คนอื่นได้เติบโตและไม่หวังผลนั้น ถือว่าเป็นงานที่ทำได้ยาก ถ้าจิตใจไม่บริสุทธิ์สะอาดจริงทำงานแบบนี้ไม่ได้นะครับ ฉะนั้นครูคนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่หาได้ยากมาก หายากพอๆกันหาหยดน้ำท่ามกลางทะเลทรายเลยละ ทั้งหมดที่เล่ามาก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งเข้าค่าย ตลอดคืนที่นอนที่วัดดอน ไม่เห็นผีเลยสักตัว การเข้าค่ายครั้งนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย นักเรียนน่าจะได้รับความรู้เป็นที่ดียิ่ง ส่วนตัวผมไม่ได้อะไรเลยเพราะความรู้ท่วมหัวอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็ได้ถ่ายรูปกับครูผู้ยิ่งใหญ่อย่างครูเชาว์ ผมก็ดีใจแล้ว และสิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันเลย ที่คนก่อนๆคนโบราณบอกว่า ยิ่งให้ ยิงได้ ยิ่งให้ยิ่งมี มันคือความจริง ผมอุทิศตนเขียนเว็บเพื่อให้ความรู้ฟรีๆกับชาวโลกทั้งหลาย ผลปรากฎว่ามีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับชีวิตผมตลอดเลย หนึ่งผมรู้สึกว่าชีวิตผมมีค่ามากเพราะอย่างน้อยผมก็ได้ช่วยเหลือคนมากมายให้ความรู้แก่มนุษย์โลกมากมายหลายล้น เกิดมาชีวิตนี้ถ้าตายไปก็คงตายไปแบบมีคุณค่าแล้วหละ ไม่เกิดมาเสียเปล่าแล้วละ สองการเขียนเว็บแบ่งปันความรู้ก็เหมือนการได้ทบทวนความรู้ไปในตัวหรือถ้าพูดให้เท่ห์ๆเป็นศัพท์ทางวิชาการ ก็คือเป็นการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ สามเวลาตายไปอย่างน้อยเราก็มีข้ออ้างในการไปบอกท่านยมพบาลว่า เราได้ทำความดีอย่างนี้นะ ท่านไม่ให้ตกนรกแน่นอน สี่มีข้ออ้างเท่ห์ๆไว้บอกสำหรับคนที่ชอบถามว่าทำไม ไม่ชอบออกไปไหน ผมก็จะตอบเขาว่า ออกไปไหนไม่ได้ยังมีมนุษย์โง่อีกเยอะที่ต้องช่วยเหลือ ห้าทำให้เรามีจิตใจแจ่มใส่เบิกบานมีความสุข หกได้เจอแต่ผู้คนดีๆ เจ็ดไม่อดไม่จน เวลาเจอปัญหาจะมีท่านผู้หนึ่งคอยช่วยเหลือตลอด คล้ายๆปาฏิหาริย์ มั้งอันนี้อธิบายยากหน่อย มีอีกเยอะ ไม่เชื่อลองมาเป็นผู้ให้ดู

616 Views